รีไฟแนนซ์บ้าน คือ การเปลี่ยนหนี้สินเชื่อธนาคารที่กู้อยู่ปัจจุบัน ไปยังธนาคารใหม่ หรือเรียกอีกอย่างคือ การเปลี่ยนเจ้าหนี้ โดยปัจจัยที่สำคัญในการพิจารณานั้น ธนาคารใหม่ควรจะให้อัตราดอกเบี้ยบ้านที่ต่ำกว่าธนาคารเดิม ผู้กู้จะต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรีไฟแนนซ์ด้วย เช่น ค่าจดจำนอง, ค่าประกันอัคคีภัย, ค่าประเมินหลักทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งบางธนาคารที่รับรีไฟแนนซ์อาจจะมีเงื่อนไขฟรีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ด้วย
การรีไฟแนนซ์ดอกเบี้ยบ้าน จะต้องทำการยื่นเอกสารใหม่ หรือยื่นกู้ใหม่นั่นเอง ดังนั้น ผู้กู้จะต้องพิจารณาเรื่องเอกสารรายได้ ,ยอดเงินรายได้ ณ ปัจจุบันด้วย ซึ่งถ้าปัจจุบัน มีรายได้เพิ่มสูงขึ้น อาจจะทำให้การยื่นของรีไฟแนนซ์นั้นผ่านได้โดยง่าย แต่กลับกันถ้ารายได้ลดลง หรือตอนกู้ครั้งแรกทำงานประจำ แต่ปัจจุบันลาออกมาทำอาชีพอิสระ เอกสารและรายได้ไม่เข้าเกณฑ์ของธนาคาร อาจะทำให้การพิจารณายื่นกู้ใหม่นั้นผ่านได้ยากขึ้นด้วย การรีไฟแนนซ์โดยปกติควรจะทำทุก ๆ 3 ปี เพราะธนาคารส่วนใหญ่ให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษในช่วง 3 ปีแรก หลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นดอกเบี้ยแบบลอยตัว แต่ก็ควรศึกษาเงื่อนไขและรายละเอียดข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร อย่างรอบคอบด้วย
ขั้นตอนการทำรีไฟแนนซ์บ้าน มีดังนี้
- ติดต่อธนาคารเดิม เพื่อขอทราบรายละเอียดยอดหนี้ หรือ รวบรวมใบเสร็จที่ผ่อนชำระหนี้กับธนาคารเดิม
- เตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการขอยื่นกู้ เช่น สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, เอกสารแสดงรายได้, เอกสารบัญชีธนาคาร และอื่นๆ
- พิจารณาอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารใหม่ ควรเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยปัจจุบัน และพิจารณาเทียบอัตราดอกเบี้ยของหลาย ๆ ธนาคาร
- นำเอกสารที่เตรียมไว้ ไปคุยกับธนาคารใหม่ เพื่อทำเรื่องยื่นขอรีไฟแนนซ์
- เมื่อธนาคารใหม่พิจารณาและผ่านการอนุมัติเบื้องต้นแล้ว ธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่ไปประเมินทรัพย์สิน
- หลังจากประเมินทรัพย์แล้ว ธนาคารใหม่จะแจ้งยอดเงินที่อนุมัติ ให้นัดธนาคารเดิมและธนาคารใหม่ ไปทำสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ ณ สำนักงานที่ดิน และจ่ายชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ถูกกว่า อัตราดอกเบี้ยเดิม
- ดอกเบี้ยลด เงินต้นลด ผ่อนหนี้หมดได้เร็วกว่าเดิม
- สามารถกำหนดแผนการผ่อนชำระได้ ปรับยอดผ่อนชำระหนี้น้อยลง เพิ่มสภาพคล่อง เพราะยอดหนี้ลดลง แต่ก็ขึ้นอยู่กับธนาคารใหม่พิจารณาด้วย
- บางกรณีอาจทำรีไฟแนนซ์ และขอยอดเงินกู้เพิ่มได้ ทำให้มีเงินเหลือ เพื่อนำไปจ่ายหนี้ส่วนอื่น
ข้อเสียของการรีไฟแนนซ์บ้าน
- การรีไฟแนนซ์ทำให้เพิ่มระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้น
- เสียค่าใช้จ่ายการรีไฟแนนซ์ใหม่ เช่น ค่าจดจำนอง, ค่าประกันอัคคีภัย, ค่าประเมินหลักทรัพย์ เป็นต้น
- ต้องจัดเตรียมเอกสารที่ใช้พิจารณายื่นกู้ใหม่ หากผู้กู้เปลี่ยนอาชีพ เปลี่ยนงาน หรืออาชีพอิสระ มีความยุ่งยากในการเตรียมเอกสาร
- เสียเวลาในการดำเนินการรีไฟแนนซ์ ตั้งแต่การเตรียมเอกสารยื่นกู้ใหม่ การประเมินทรัพย์ จนถึงการโอนกรรมสิทธิ์ ณ สำนักงานที่ดิน
สุดท้ายนี้ การรีไฟแนนซ์เป็นเทคนิคที่ลูกหนี้สินเชื่อบ้านทั้งหลาย ควรพิจารณาและดำเนินการ เพื่อให้สามารถจัดการหนี้ให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีวิธีอื่นให้พิจารณา “การขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม (Retention)” ซึ่งมีวิธีการที่ง่ายกว่าการทำ Refinance แต่อัตราดอกเบี้ยอาจจะลดลงน้อยกว่า ดังนั้นจะขออธิบายในบทความต่อไปครับ