เครดิตบูโรคืออะไร
บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ Nation Credit Bureau (NCB) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “บูโร” มีหน้าที่ในฐานะคนกลางในการจัดเก็บรวบรวมประวัติเครดิต สถานะการขอสินเชื่อของบุคคลที่ขอสินเชื่อ กับสถาบันการเงิน หรือไฟแนนซ์ต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิก
โดยเก็บข้อมูลสินเชื่อต่าง ๆ บัตรเครดิต, บัตรกดเงินสด, สินเชื่อบ้าน, สินเชื่อรถยนต์ เป็นต้น ข้อมูลที่รวบรวมจะเก็บทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นประวัติที่ดีหรือไม่ดี โดยสถาบันการเงินต่าง ๆ จะขอข้อมูลจาก NCB เพื่อประเมินความเสี่ยงทุกครั้งที่มีคนมาขอสินเชื่อ
ข้อมูลเครดิตบูโร เก็บอะไรบ้าง
1. ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลพื้นฐานที่ใช้ระบุตัวตน เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ วันเกิด สถานะภาพการสมรส อาชีพ
2. ประวัติหนี้สินและการชำระ NCB จะเก็บข้อมูลสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติทุกประเภท ประวัติการชำระ ลักษณะการผ่อนชำระ โดยจะเก็บข้อมูลไว้ 36 เดือน (3 ปี)
2. ประวัติหนี้สินและการชำระ NCB จะเก็บข้อมูลสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติทุกประเภท ประวัติการชำระ ลักษณะการผ่อนชำระ โดยจะเก็บข้อมูลไว้ 36 เดือน (3 ปี)
รหัสเครดิตบูโร หรือ สถานะเครดิตบูโร มีดังนี้
A0 = บัญชีปกติ
D1 = อยู่ในระหว่างการเจรจรให้ชำระหนี้
D3 = มีการประนอมหนี้ หรือ มีข้อตกลงในการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
D5 = มียอดค้างชำระ
F0 = กำลังตรวจสอบบัตรเครดิต หรือบัตรประจำตัว เนื่องจากถูกฉ้อฉล
F1 = บัตรเครดิต หรือบัตรประจำตัว เคยถูกใช้ฉ้อฉล
L0 = อยู่ในระหว่างกระบวนการทางกฏหมาย
L3 = ศาลพิพากษายกฟ้อง
S0 = บัตรเครดิต ถูกขโมย / หาย
T1 = ขายหนี้ไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ นิติบุคคลอื่น
T3 = โอนหนี้ไปยังบัญชีใหม่ หรือบัญชีอื่น
X0 = ปิดบัญชี
X2 = ลูกค้าเสียชีวิต หรือสาบสูญ
X5 = ปิดบัญชี ภายหลังจากการติตดามทวงถาม
X7 = ปิดบัญชีเนื่องจากหนี้สูญ
10 = สถานะปกติ
11 = สถานะปิดบัญชี
12 = พักชำระหนี้ ตามนโยบายรัฐ
20 = มีหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน
30 = อยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย
31 = อยู่ในระหว่างชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม
32 = ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากขาดอายุความ
33 = ปิดบัญชี เนื่องจากตัดเป็นหนี้สูญ
40 = อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อ เพื่อปิดบัญชี
41 = เจ้าของข้อมูลขอตรวจสอบรายการ
42 = โอนหรือขายหนี้
D1 = อยู่ในระหว่างการเจรจรให้ชำระหนี้
D3 = มีการประนอมหนี้ หรือ มีข้อตกลงในการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
D5 = มียอดค้างชำระ
F0 = กำลังตรวจสอบบัตรเครดิต หรือบัตรประจำตัว เนื่องจากถูกฉ้อฉล
F1 = บัตรเครดิต หรือบัตรประจำตัว เคยถูกใช้ฉ้อฉล
L0 = อยู่ในระหว่างกระบวนการทางกฏหมาย
L3 = ศาลพิพากษายกฟ้อง
S0 = บัตรเครดิต ถูกขโมย / หาย
T1 = ขายหนี้ไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ นิติบุคคลอื่น
T3 = โอนหนี้ไปยังบัญชีใหม่ หรือบัญชีอื่น
X0 = ปิดบัญชี
X2 = ลูกค้าเสียชีวิต หรือสาบสูญ
X5 = ปิดบัญชี ภายหลังจากการติตดามทวงถาม
X7 = ปิดบัญชีเนื่องจากหนี้สูญ
10 = สถานะปกติ
11 = สถานะปิดบัญชี
12 = พักชำระหนี้ ตามนโยบายรัฐ
20 = มีหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน
30 = อยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย
31 = อยู่ในระหว่างชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม
32 = ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากขาดอายุความ
33 = ปิดบัญชี เนื่องจากตัดเป็นหนี้สูญ
40 = อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อ เพื่อปิดบัญชี
41 = เจ้าของข้อมูลขอตรวจสอบรายการ
42 = โอนหรือขายหนี้
อธิบายสถานะเครดิตบูโรเพิ่มเติม ดังนี้
[ 10 = ปกติ ] ผ่อนชำระตรงทุกงวด ไม่เคยมีค้างชำระเกิน 30 วัน อาจมีการชำระล่าช้าบ้าง ไม่ส่งผลต่อเครดิต ลูกค้าสถานะกลุ่มนี้กู้สินเชื่อได้ง่าย
[ 11 = ปิดบัญชี ] เคยมีประวัติค้างชำระเกิน 30 วัน 90 วัน หรือ 1 ปี หลังจากนั้นเข้าไปเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อปิดบัญชี บางธนาคารรับพิจารณา
[ 20 หนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน ] ผ่อนบัตรเครดิตและค้างชำระอยู่ ไม่ว่าจะขอสินเชื่อธนาคารใด ไม่ผ่านแน่นอน เพราะยังมียอดค้างชำระอยู่ ทำให้ธนาคารมองเป็นลูกค้าแบล็กลิสต์
ติดบูโรอยู่ ต้องการขอสินเชื่อบ้าน มีวิธีทำอย่างไรได้บ้าง
- ซื้อบ้านด้วยเงินสด เนื่องจากมีประวัติค้างชำระในเครดิตบูโร ทำให้สถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่นำเสนอสำหรับคนที่ต้องการอยากซื้อบ้านครับ
- ติดต่อเจรจากับเจ้าหนี้ เพื่อขอชำระหนี้ส่วนที่ค้างทั้งหมด ซึ่งธนาคารอาจจะขายหนี้ให้กับบริษัทอื่นไปแล้ว จะต้องติดตามเพื่อเจรจาขอชำระหนี้ ซึ่งอาจจะตกลงผ่อนชำระเป็นงวด ๆ หรือชำระหนี้ทั้งหมดในครั้งเดียว และจะต้องสอบถามระยะเวลากับทางเจ้าหนี้ด้วย ว่าใช้ระยะเวลาส่งเรื่องเข้าเครดิตบูโรประมาณเมื่อไร ซึ่งหลังจากที่บริษัทส่งเรื่องไปยังเครดิตบูโรแล้ว อาจจะต้องรอระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ในการยื่นขอสินเชื่อใหม่
- เคลียร์หนี้กับสถาบันการเงิน และใช้ใบปิดหนี้ ประกอบการยื่นกู้ กับสถาบันการเงิน โดยส่วนใหญ่จะมีธนาคารของรัฐที่พอจะรับเงื่อนไขส่วนหนี้ได้ แนะนำให้ลองติดต่อกับ ธ.อาคารสงเคราะห์, ธ.ออมสิน ถ้าธนาคารยินยอมกับเงื่อนไขได้ ก็มีโอกาสผ่านในการขออนุมัติสินเชื่อ
- ตกลงเช่าซื้อบ้านกับผู้ขาย การเช่าซื้อเป็นอีกวิธีการหนึ่งในการซื้อบ้าน ซึ่งจะต้องตกลงเงื่อนไขการเช่าซื้อกับผู้ขาย ซึ่งมีรายละเอียดที่จะขออธิบายในบทความต่อไปครับ
สำหรับผู้ที่สนใจจะมีบ้านเป็นของตัวเอง แนะนำให้ศึกษาวิธีการยื่นกู้ เงื่อนไขต่าง ๆ และเตรียมความพร้อมในการขอยื่นกู้ ทั้งในเรื่องของเครดิต รายได้ ภาระหนี้สิน และเอกสารต่าง ๆ เป็นอย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อให้การขอยื่นกู้นั้น มีความพร้อมและผ่านการอนุมัติได้ง่ายครับ
Good Home Asset
รับฝากขายบ้าน คอนโด ที่ดิน อสังหาฯ ทุกประเภท